หากพูดถึงเครื่องมือแพทย์ ที่หลาย ๆ คนนึกถึง คงจะหนีไม่พ้นหูฟังของแพทย์อย่างแน่นอน เพราะหากเราเจ็บป่วยจนต้องไปพบแพทย์ เครื่องมือที่สามารถพบเห็นได้บ่อยที่สุด จะเป็นหูฟังแพทย์ที่แทบจะพบติดตัวอยู่ตลอดเวลา และส่วนใหญ่แล้วแพทย์จะใช้หูฟังมตรวจบริเวณหน้าอก หรือหลังของเราอยู่เสมอ ดังนั้นหากใครเคยสงสัยว่าเครื่องมือแพทย์ประเภทนี้คืออะไร และมีหน้าที่อย่างไรบ้างนั้น ไปดูกันเลย 

เครื่องมือแพทย์ Stethoscope คืออะไร 

สำหรับเครื่องมือแพทย์ Stethoscope หรือที่เรียกว่าสเต็ทโตสโคป ซึ่งจะเป็นเครื่องมือแพทย์ที่ใช้ในการฟังเสียงอวัยวะภายในร่างกายของเรา ส่วนใหญ่จะใช้ฟังเสียงหัวใจ ปอด และลำไส้ เพื่อเป็นตัวช่วยประเมินอาการ และช่วยวินิจฉัยโรคในเบื้องต้นได้นั่นเอง เพราะหากร่างกายของเรามีความผิดปกติ อย่างเช่น หัวใจเต้นผิดปกติ หรือมีอาการหายใจติดขัด หูฟังของแพทย์จะช่วยตรวจเช็ดอาการได้อย่างแม่นยำ แถมยังสามารถทราบถึงตำแหน่ง หรือบริเวณที่เกิดความผิดปกติได้อีกด้วย 

หลักในการทำงานของ Stethoscope ที่ทุกคนไม่ควรมองข้าม 

เมื่อเรารู้แล้วว่าเครื่องมือแพทย์ Stethoscope สามารถใช้ทำอะไรได้บ้าง ในขั้นตอนต่อไปเราจำเป็นต้องรู้ในเรื่องของหลักการทำงาน เพื่อเรียนรู้ได้อย่างเหมาะสม ดังนั้นมาดูกันเลยว่า Stethoscope จะมีหลักในการทำงานอย่างไรบ้าง 

  • รับแรงสั่นสะเทือนจากอวัยวะต่าง ๆ: การทำงานอย่างแรกของ Stethoscope นั้น ตัวเครื่องมือจะมีส่วนที่เป็นแผ่นรับเสียง หรือรับแรงสั่นสะเทือนจากอวัยวะต่าง ๆ และเมื่อแพทย์นำหูฟังไปวางเอาไว้ในบริเวณที่ต้องการฟังเสียง จะสามารถฟังเสียงได้ 2 ด้าน ทั้งดานไดอะแฟรม ที่จะใช้วัดเสียงปอดที่มีความถี่สูง และด้าน Bell ที่ใช้วัดเสียงหัวใจที่มีความถี่ต่ำ 
  • ส่งต่อเสียงไปที่ท่อนำเสียง: เมื่อหูฟังสามารถรับแรงสั่นสะเทือนจากอวัยวะต่าง ๆ ภายในร่างกายได้แล้ว เสียงจะถูกสงต่อไปตามท่อนำเสียงที่จะมีลักษณะเป็นรูปตัว Y ทำมาจากวัสดุที่เป็นโพลีไวนิลคลอไรด์ หรือยางลาเท็กซ์ เพื่อเป้นตัวช่วยเพิ่มความยืดหยุ่น และให้ความทนทานได้มากกว่าเดิม 
  • เสียงส่งต่อไปที่หูฟัง: หลักการทำงานขั้นตอนสุดท้ายของ Stethoscope แรงสั่นสะเทือนที่วัดได้ จะถูกส่งต่อมาจากแผ่นรับเสียง ผ่านท่อนำเสียง จนมาถึงหูฟังนั่นเอง และเสียงจะถูกส่งเข้าหูของแพทย์ เพื่อให้แพทย์ได้รู้ว่ามีความผิดปกติเกิดขึ้นหรือไม่ 

เรียกได้ว่า Stethoscope เป็นหนึ่งในเครื่องมือแพทย์ ที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก เนื่องจากจะเป็นเครื่องมือประเภทแรก ๆ ที่แพทย์ใช้ตรวจสอบความผิดปกติของร่างกายเลยก็ว่าได้ ดังนั้นเครื่องมือชิ้นนี้จะทำให้แพทย์สามารถวินิจฉัยได้ว่าร่างกายของเรามีความผิดปกติหรือไม่ และผิดปกติมาจากส่วนใดนั่นเอง